วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ความหลังจงอางศึก บันทึกชีวิตจริง ตอนที่ 1

 เรื่องเล่าจากคุณพ่อ 

รวบรวมจากบทความเรื่อง 
ความหลังจงอางศึก บันทึกชีวิตจริง 
โดย พ.อ.ทวี วุฒิยานันท์ นายทหารประชาสัมพันธ์ จงอางศึก

ตอนที่ 1
            ข้าพเจ้าผู้เขียน เป็นสมาชิกเสนาสารมานานพอสมควร เคยมีความคิดที่จะเขียนบทความเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตขณะที่รับราชการทหารมาเล่าสู่กันฟัง  ก็หาโอกาสดังกล่าวยากยิ่ง มาสบโอกาสก็ต่อเมื่อข้าพเจ้าเกษียณอายุราชการ  มีเวลาว่างพอที่จะเขียนบทความซึ่งเป็นประสบการณ์ชีวิตทหาร ที่ข้าพเจ้าประทับใจและภูมิใจมากที่สุด  ซึ่งเรื่องที่จะเขียนนี้อาจทีผู้อื่นเคยเขียนและเล่ากันมาแล้ว แต่ก็เป็นมุมอื่นคงไม่ใช่มุมเดียวกับข้าพเจ้าที่จะเขียนต่อไปนี้
          เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2510  ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2510  ทางรัฐบาลไทยได้มีการประกาศรับสมัครไปราชการที่ประเทศเวียดนาม  ตามจังหวัดทหารบกทั่วประเทศ  ซึ่งได้มีชายฉกรรจ์ไปสมัครกันมากมายจนเกินทีทางการกำหนดไว้ นับจำนวนพันๆคน  ทุคนที่มาสมัครกันในครั้งนี้  มาจากทุกภาคของประเทศไทย  มีอาชีพต่างๆกัน เช่น  อาชีพเกษตรกร ช้าราชการ  ช่างไฟฟ้า  ช่างยนต์  ขับรถรับจ้าง  กรรมการ ฯลฯ  ทุกคนอาสาสมัครรับใช้ประเทศชาติในการเผยแพร่เกียรติศักดิ์ของชาติไทยและเพื่อรักษาสันติภาพของโลก  ป้องกันและรักษาเอกราชอธิปไตยของชาติด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพันกันทีเดียว
                ส่วนข้าพเจ้าเองนั้น  ตอนที่เขาเปิดรับสมัครไปราชการเวียดนามกัน  ข้าพเจ้ากำลังมีภารกิจการถ่ายภาพยนตร์ หน่วยงานกรมอุตสาหกรรมทหาร  เพื่อประกอบคำปราศรัยของ ท่านนายกรัฐมนตรีเนื่องในวันกองทัพไทยสมัยนั้น   ข้าพเจ้าเองก็เคยไปราชการสงครามเกาหลี รุ่นที่ 4 เมื่อปี 2495 มาแล้ว  มีสิทธิได้บัตรเหรียญชัยสมรภูมิและสมุดคู่มือเกาหลี สำหรับครอบครัวแล้ว  จึงไม่ได้คิดที่จะไปสมัครกับเขา  แต่พอมาถึงวันที่ 10 มีนาคม 2510  หลังจากถ่ายภาพยนตร์ในการปฏิบัติงานของหน่วยเภสัชกรรมทหารที่ซอยกล้วยน้ำไท  พระโขนง  เสร็จงานกันแต่วัน  จึงเดินทางกลับหน่วยที่ตั้งปกติ คือ กองการภาพ กรมการทหารสื่อสาร  หัวหน้ากองการภาพ (พ.อ.ถาวร  ช่วยประสิทธิ  ยศในขณะนั้น)  ได้เรียกข้าพเจ้าเข้าไปพบและบอกว่า นายทหารคนสนิทของเจ้ากรมยุทธการทหารบก  ได้มาตามข้าพเจ้าให้ไปพบกับท่านเจ้ากรมด่านเมื่อเสร็จงานแล้ว  ข้าพเจ้าจึงเดินทางไปพบกันท่านในบ่ายวันนั้นเอง  เมื่อถึงกรมยุทธการทหารบกได้พบกับนายทหารคนสนิทของท่าน  (ร.อ.เจิดศักดิ์   พลจันทร์  ยศในขณะนั้น)  ท่านก็บอกให้เข้าไปพบกับท่านเจ้ากรมได้เลย  ข้าพเจ้าเข้าไปรายงานตัวกันท่านเจ้ากรมเสร็จ ท่านถามทันทีว่า  “ จะไปเวียดนามไหม ? ”  ข้าพเจ้า งง ไปหมดไม่รู้จะตอบอย่างไรดี  จึงบอกว่า “กระผมคงจะไปไม่ได้หรอกครับ” ท่านถาม “เพราะอะไร ?  “กระผมไปไม่ได้เพราะตำแหน่งนายทหารถ่ายภาพไม่มีในอัตรา  มีแต่นายสิบช่างภาพตำแหน่งเดียว และทางกรมการทหารสื่อสารก็ได้บรรจุ  ส.อ.ประหยัด คัดชา ไปแล้ว”  


ส.อ.ประหยัด  คัดชา
นายสิบการภาพ กรม.อสส.(จงอางศึก)

 ข้าพเจ้าตอบท่านไป   ท่านจึงบอกว่า  “ฉันไม่ได้ให้ไปในตำแหน่งนายทหารถ่ายภาพ  แต่จะให้ไปในตำแหน่ง นายทหารประชาสัมพันธ์ ของกรมทหารอาสาสมัคร จะไปไหม ?     ข้าพเจ้าเลยตอบไปว่า “ท่านจะให้ไปเป็นนายทหารประชาสัมพันธ์ อย่างนั้นกระผมก็จะไปตามคำสั่งของท่าน ครับกระผม”  และท่านก็ยังพูดต่ออีกว่า “ แต่เธอก็จะต้องถ่ายภาพอยู่ดี คือถ่ายภาพยนตร์ทำประวัติให้กับกรมยุทธการทหารบกด้วย"    ข้าพเจ้าก็รับคำท่าน    ท่านเจ้ากรมบอกว่า  วันที่ 10 เมษายน 2510 ให้ไปรายงานตัวกับ ผบ.หน่วยกรมทหารอาสาสมัคร ณ ที่ตั้ง จังหวัดชลบุรี  ระหว่างนี้ให้เตรียมตัวและพักผ่อนได้  จะแจ้งให้หน่วยที่ตั้งของเธอทราบด่วน  ข้าพเจ้าจึงกราบลาท่านเจ้ากรมยุทธการ  กลับกรมการทหารสื่อสาร  แล้วแจ้งให้หัวหน้ากองการภาพ ได้ทราบเรื่องทั้งหมด  หัวหน้ากองการภาพท่านก็บอกว่า ข้าพเจ้าโชคดี  ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ทางกรมการทหารสื่อสาร  จะต้องเป็นผู้คัดเลือกแล้วส่งชื่อไปให้กรมยุทธการ ฯ  เพราะฉะนั้นคุณจะต้องทำงานอย่างเต็มความสามารถ เพื่อชื่อเสียงเกียรติประวัติของหน่วยและตัวเอง  และท่านก็อวยพรให้ปลอดภัย และโชคดีในการที่จะไปปฏิบัติงานในครั้งนี้
พื้นที่ จ.ชลบุรี

บริเวณ กรมทหารอาสาสมัคร ชลบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2510
             พอถึงวันที่ 10 เมษายน 2510  ข้าพเจ้าก็ขึ้นรถโดยสาร  กรุงเทพฯ – ชลบุรี  แต่เช้าตรู่  ไปถึงชลบุรี  08.00 น. กว่าๆ  ข้าพเจ้าได้เข้าพบ ผบ.กรมทหารอาสาสมัคร (พ.อ.สนั่น  ยุทธสารประสิทธิ์  ยศในขณะนั้น ) และรองผบ.กรมทหารอาสาสมัครผ่ายยุทธการ  (พ.ท.สุจิณณ์  มงคลคำนวณเขตต์  ยศในขณะนั้น ) ซึ่งท่านทั้งสองดีใจมากเข้ามาจับมือแสดงความยินดีที่จะได้นายทหารประชาสัมพันธ์มาร่วมงานกับท่าน  จากนั้นท่านก็ให้นายสิบ บก.นำไปที่พักนายทหารซึ่งอยู่ด้านหลังภูเขากับหน่วย  ในห้องพักของข้าพเจ้า  ที่ตู้ใส่เสื้อผ้า มีชื่อของข้าพเจ้าติดอยู่ตัวเบ้อเร่อเชียว
คณะสื่อมวลชน เยี่ยมการฝึก จงอางศึก 

ผบ.กรม.อสส. พาคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมการฝึกขั้นที่ 1-2
สื่อมวลชนฟังบรรยายสรุป

ยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ
                             จากนั้นอีก 2 วันต่อมา ข้าพเจ้าก็ได้เริ่มปฏิบัติงานประชาสัมพันธ์ให้กับกรมทหารอาสาสมัคร (จงอางศึก) ทันที วันนั้นมีทั้งผู้สื่อข่าว ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุและโทรทัศน์ ประมาณ 50 คน ไปเยี่ยมที่ตั้งกรมทหารอาสาสมัคร ชลบุรี ข้าพเจ้าได้พบเพื่อนเก่าๆ ที่เป็นช่างถ่ายภาพหนังสือพิมพ์, ช่างภาพข่าวโทรทัศน์ และช่างภาพใหม่ๆบ้าง เราก็ได้พูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง และทุกคนก็บอกว่ายินดีที่จะเป็นสื่อกลาง แจ้งข่าวให้กับประชาชนคนไทยได้ทราบ ขอให้ข้าพเจ้า เขียนข่าวมาลงหนังสือพิมพ์และวิทยุได้ทันที ถ้าได้ภาพด้วยยิ่งดี ทางด้านโทรทัศน์ก็ให้ข้าพเจ้าถ่ายภาพยนตร์ส่งให้ด้วย (ขณะนั้นโทรทัศน์มีแค่ 2 ช่องคือ ช่อง 4 และช่อง 7 ซึ่งเป็นของกองทัพบก และเป็นโทรทัศน์ ขาวดำเท่านั้น ) ข้าพเจ้าก็รับคำเพื่อนๆนักข่าวด้วยความดีใจที่จะได้ประชาสัมพันธ์หน่วยของเราได้เต็มที เขียนข่าวมาลงหนังสือพิมพ์และวิทยุได้ทันที ถ้าได้ภาพด้วยยิ่งดี ทางด้านโทรทัศน์ก็ให้ข้าพเจ้าถ่ายภาพยนตร์ส่งให้ด้วย (ขณะนั้นโทรทัศน์มีแค่ 2 ช่องคือ ช่อง 4 และช่อง 7 ซึ่งเป็นของกองทัพบก และเป็นโทรทัศน์ ขาวดำเท่านั้น ) ข้าพเจ้าก็รับคำเพื่อนๆนักข่าวด้วยความดีใจที่จะได้ประชาสัมพันธ์หน่วยของเราได้เต็มที่
                ขณะนั้นหน่วยจงอางศึกของเราได้เริ่มฝึกที่จังหวัดชลบุรี  ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ 2510  เพื่อให้คุ้นเคยกับภูมิประเทศใกล้ทะเลและหนองบึง  มีป่าชายเลนป่าดงจาก  ซึ่งลูกจงอางศึกทุกคนทำการฝึกกันอย่างหนัก  เพื่อลดความสูญเสียกำลังพลของหน่วย  เมื่อถึงเวลาที่จะออกปฏิบัติการรบจริงในสมรภูมิ  ทุกคนจะต้องเผชิญกับยุงทะเล ตัวโตกว่ายุงบ้านเราเยอะ  และยังต้องระวังงูกะปะในดงจากซึ่งมีชุกชุมมาก  เพราะถ้าโดนถูกกัดแล้วหาหมอไม่ทันก็มีหวังเดสโมเร่ไปเลย  แต่ทหารจงอางศึกของเราก็มิได้หวั่นไหว  ตั้งอกตั้งใจฝึกกันอย่างจริงจังหลังจากทากรฝึกขั้นที่ 1-2 ตั้งแต่ 12 มีนาคม 2510 ถึง 6 พฤษภาคม 2510 แล้ว  ก็จะต้องทำการฝึกขั้นที่ 3-4 เป็นการฝึกผสม และฝึกระดับกรม  ซึ่งทหารกรมอาสาสมัครทุกคนจะต้องเคลื่อนย้าย  จากที่ตั้งชลบุรี  ไปทำการฝึกที่จังหวัดกาญจนบุรี  เริ่มเคลื่อนย้าย 23.00 น. ของวันที่ 6 พฤษภาคม 2510  ขบวนยานยนต์ของเราออกจากชลบุรี มาออกแปดริ้ว  แล้วมาทางสายมีนบุรี ออกสี่แยกบางเขน ผ่านกรุงเทพฯ  แล้วไปกาญจนบุรี  ไปถึงลาดหญ้าเอา 06.00 น.  

ที่ตั้งใหม่ ทุ่งลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี

เข้าที่ตั้งที่ พล.ร.9 อยู่ในขณะนี้  ตอนนั้นยังเป็นป่าไปหมด  ทางกรมทางหลวงเขามาเกรดถนนเล็กๆไว้พอรถขบวนเข้าไปได้เท่านั้น  คุณรู้ไหมครับ ตอนนั้นไปถึงมันยังเช้าอยู่  พวกแย้มันออกจากรูมาหากันกัน  เห็นรถขบวนมามันคงแปลกใจ  มันหยุดดูครับไม่ยักหนี   พวกเรานั่งอยู่ในรถก็ได้แต่คิดกันไว้เลยว่า จะต้องได้กินผัดเผ็ดแย้แน่ๆ  เพราะมันชุมจริงๆครับ  ตอนนี้เราจะไม่เห็นทะเล  แต่จะเห็นแต่ป่าและภูเขา  รอบๆที่ตั้งหน่วยของเรา  เราทุกคนพร้อมที่จะฝึกในป่าในเขาต่อไป ในขั้นที่ 3-4  เมื่อฝึกแล้ว  เราได้ไปปฎิบัติหน้าที่ของชายชาติทหารเพื่อเกียรติศักดิ์ของนักรบไทย.........









3 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับสำหรับภาพและเรื่องราวต่างๆที่หาชมได้ยาก

    ตอบลบ
  2. ขอนำลงเพจเพื่อเผยแพร่ให้กับบุคคลภายนอกได้รับรู้รับทราบนะครับ...ขอบคุณครับ

    ตอบลบ